
รู้จัก ThaiESGX
Thailand ESG Extra Fund (ThaiESGX) หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ เป็นกองทุนรวมเพื่อรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในกิจการที่เน้นความยั่งยืน
นโยบายการลงทุนของ ThaiESGX
ลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของ NAV และต้องลงทุนใน หุ้นกลุ่มความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
ประเภทสินทรัพย์ที่ ThaiESGX ต้องลงทุนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าในสัดส่วนร้อยละ 80 ของ NAV ประกอบด้วย

หุ้นไทย
หุ้นไทยกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า ร้อยละ 65 ของ NAV

พันธบัตร/ตราสารหนี้ไทย
ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน

โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน
โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
หมายเหตุ : ดูรายละเอียดคุณสมบัติด้านความยั่งยืนของแต่ละสินทรัพย์ได้ที่กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG)
สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ ThaiESGX
ประจำปี 2568
กรณี LTF เดิม: Checklist เบื้องต้น !!
- หน่วยลงทุนที่มีสิทธิ์: หน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วย LTF ถือครอง ณ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ (11 มีนาคม 2568) และต้องไม่ขายหรือสับเปลี่ยนออกไปยังกองทุนประเภทอื่นตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
- กรณีต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อน: ต้องสับเปลี่ยน LTF เดิมให้ครบทุกกองทุนไปยัง ThaiESGX
- ต้องแจ้งความจำนงเพื่อสับเปลี่ยน: ภายใน 2 เดือนเท่านั้น (พฤษภาคม – มิถุนายน 2568)
สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับ ThaiESGX สำหรับปี 2568 |
วงเงินลดหย่อนที่ 1 เงินใหม่ เฉพาะปี 2568 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท |
วงเงินลดหย่อนที่ 2
สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม สูงสุด 300,000 บาท (ไม่มีเงื่อนไข 30% ของเงินได้พึงประเมิน) (ปีที่ 2 – 5 (2569 – 2572) : เฉลี่ยเท่ากันทั้งสี่ปีของเงินส่วนที่เกิน 300,000 บาท / สูงสุด ปีละ 50,000 บาท) |
➢ Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1)
สำหรับเงินใหม่ที่บุคคลธรรมดาลงทุนในกองทุน Thai ESGX เฉพาะปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท
- วงเงินลดหย่อน: ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (เฉพาะปี 2568)
- ระยะเวลาลงทุน: เปิดระยะให้ลงทุนภายใน 2 เดือน (คาดว่าเริ่มเปิดขายหน่วยได้ทุกวันทำการของเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 2568)
- การถือครอง: ไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)
➢ Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 2)
สำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ที่ถือทั้งหมด ใน LTF ทุกกองทุนในทุก บลจ. มาเป็นหน่วยลงทุนของ Thai ESGX เพื่อรับเงินสิทธิลดหย่อนสำหรับ LTF เดิม สูงสุด 500,000 บาท
- วงเงินลดหย่อน: สูงสุด 500,000 บาท รวม ทยอยลดหย่อน 5 ปี ตั้งแต่ปีภาษี 2568 – 2572 ▪ ปีแรก (2568): สูงสุด 300,000 บาท
- หน่วยลงทุนที่มีสิทธิ: หน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วย LTF ถือครอง ณ วันที่ ครม. มีมติอนุมัติมาตรการ คือ ณ 11 มีนาคม 2568 และต้องไม่ขายและสับเปลี่ยนออกไปยังกองทุนประเภทอื่นตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF)
- การถือครอง: ThaiESGX ที่สับเปลี่ยนจาก LTF รวมทั้งหมด ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับจากวันที่ส่งคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มายังกองทุน ThaiESGX)
- ระยะเวลาในการสับเปลี่ยน: ภายใน 2 เดือน (ช่วงเดียวกันกับการเปิดขายหน่วย Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) คือ เริ่มเปิดให้สับเปลี่ยนหน่วย LTF มาเป็น Thai ESGX ได้เดือน 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 รายละเอียดตามที่บลจ.กำหนด)
▪ ปีที่ 2 – 5 (2569 – 2572) : เฉลี่ยเท่ากันทั้งสี่ปีของเงินส่วนที่เกิน 300,000 บาท / สูงสุด ปีละ 50,000 บาท
อนึ่ง การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าว และควรทําความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน
One Page ครบจบที่เดียวกับ ThaiESGX
สรุปเครื่องมือลดหย่อนภาษี ปี 68คำถามที่พบบ่อย FAQ สำหรับ ThaiESGX
กรณี LTF / วงเงินลดหย่อนที่ 2
