ลงทุนยั่งยืน

พร้อมคืนภาษี

หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน เป็นอีกทางเลือกของการลงทุนสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในกิจการที่เน้นความยั่งยืนและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่ออกโดยผู้ออกที่เป็นภาครัฐไทยหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี > 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)

หุ้นไทย

• เรตติ้งโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน
• เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
• เรตติ้งโดดเด่นด้านธรรมาภิบาล

พันธบัตร/ตราสารหนี้ไทย

• เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond)
• เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond)
• ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability – linked bond)

โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน

• โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(green-project token)
• โครงการที่เกี่ยวข้องด้านความยั่งยืน (sustainability-project token)
• โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability – linked token)

รายละเอียดนโยบายการลงทุน

1. หุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET บนกระดานหลัก หรือกระดาน mai

1.1 ได้รับการคัดเลือกจาก SET หรือผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล (“ผู้ประเมินฯ”) ว่ามีความโดดเด่นด้าน E หรือ ESG โดยผู้ประเมินฯ ดังกล่าวจะต้องเป็นตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของ World Federation of Exchanges (WFE) หรือสถาบันที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นอิสระ*

1.2 มีการเปิดเผย ข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการ และการตั้งเป้าหมายเพื่อให้ บรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย รวมทั้งจัดให้ มีการทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์โดยผู้ทวนสอบที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับ**

1.3 เป็นหุ้นของ บจ. ที่มี governance ในระดับดีเลิศ โดยได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไปหรือเทียบเท่า มีการเปิดเผยเป้าหมายและแผนในเรื่องนี้ และรายงาน ความคืบหน้าการปฏิบัติตามเป้าหมายหรือแผน ผ่านช่องทางของ SET ซึ่งจัดไว้สำหรับการเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าวโดยเฉพาะและมีการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับผู้ลงทุนตามที่ SET กำหนด และมีเป้าหมายและแผนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มมูลค่าของกิจการ (cooperate value up plan)

2. ตราสารหนี้และพันธบัตรรัฐบาล

2.1 ตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) หรือตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability – linked bond)

2.2 พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย แต่ไม่รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) หรือพันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability – linked bond)

3. โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment token)

ที่ออกตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นโทเคนดิจิทัลสำหรับโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green-project token) หรือ โทเคนดิจิทัลสำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องด้านความยั่งยืน (sustainability-project token) หรือ โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (sustainability-linked token) โดยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะของโทเคนดิจิทัล จะเป็นไปตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

หมายเหตุ:

* สำนักงานก.ล.ต.อาจประกาศกำหนดแนวทางในการพิจารณาคัดเลือกผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากลดังกล่าว โดยคำนึงถึงระดับการยอมรับหรือมาตรฐานสากลอันเป็นที่ยอมรับด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านความยั่งยืนประกอบด้วยก็ได้ มีการเผยแพร่ข้อมูลในเรื่องดังนี้เป็นการทั่วไป มีผลการประเมินหุ้นด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านความยั่งยืน ในกรณีที่ผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล มีการจัดทำดัชนีด้านสิ่งแวดล้อมหรือด้านความยั่งยืน ต้องมีการเปิดเผยหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีดังกล่าวด้วย

** ผู้ทวนสอบอาจเป็นองค์กรที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) หรือผู้ทวนสอบที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับสากล โดยผู้ทวนสอบจะทำหน้าที่ติดตามผลและการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงได้ เพื่อให้การเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Thai ESG อาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถดูรายละเอียดและข้อกำหนดเพิ่มเติมได้ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และประกาศแนวปฏิบัติ โดยดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ sec.or.th

  • ไม่กำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน และไม่กำหนดเงื่อนไขการซื้อต่อเนื่อง
  • เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของ ThaiESG บุคคลธรรมดา หักลดหย่อนภาษีเงินได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน ThaiESG ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท/คน/ปี (ไม่รวมวงเงินกลุ่มเกษียณที่รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท)

รายละเอียดกองทุนและประกันรองรับการเกษียณ
  • SSF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
  • RMF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
  • PVD/ กองทุนสงเคราะห์ครู/ กบข.
    • PVD/ กองทุนสงเคราะห์ครู ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง
    • กบข. ไม่เกิน 30% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
  • ประกันบำนาญ ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
  • กอช. ไม่เกิน 30,000 บาท

(สำหรับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุน ThaiESG ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 – 31 ธันวาคม 2569)

  • ผู้ลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อถือครองมาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาตามที่กรมสรรพากรกำหนด (5 ปี นับจากวันที่ลงทุน – วันชนวัน)
  • กำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน (Capital Gain) ThaiESG – เงินได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนที่เป็นไปตามเงื่อนไข จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่กรมสรรพากรกำหนด
  • ระยะเวลาในการลดหย่อนภาษีของหน่วยลงทุน ThaiESG – ผู้ลงทุนสามารถหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุน ThaiESG ได้ตามจำนวนที่ซื้อทุกปีจนถึงปีพ.ศ. 2569 (กระทรวงการคลังจะพิจารณาต่ออายุโครงการในภายหลัง)
  • อย่าลืมแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษี ต่อบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ที่ผู้ลงทุนได้ซื้อหน่วยลงทุนด้วย (อย่าลืม! สำหรับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุน ThaiESG เฉพาะในปี 2566 ต้องถือครองอย่างน้อย 8 ปี (วันชนวัน))

คำเตือน : เงื่อนไขลดหย่อนภาษีเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าว และควรทําความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

สิ่งแวดล้อม

การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุดและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

สังคม

ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กร พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ธรรมาภิบาล

ความโปร่งใสในการดำเนินกิจการ ยุติธรรมและตรวจสอบได้